ประชาสัมพันธ์
ขอเชิญร่วมถือศีลเจริญภาวนา ปฏิบัติธรรมประจำเดือนกุมภาพันธ์
วันที่ 23-25 กุมภาพันธ์ 2567 หลักสูตร 3 วัน 2 คืน
ณ วัดช่องแสมสาร สำนักปฏิบัติธรรมประจำจังหวัดแห่งที่ 18
ขอเชิญสาธุชนที่สนใจการปฏิบัติกรรมฐานตามแนว สติปัฏฐาน 4
เข้าร่วมกิจกรรมได้ตามวันและเวลาที่กำหนด
สอบถามโทร 094 254 5956
อานิสงส์การเจริญภาวนา
ปัญหา การอยู่ในโลกอันเต็มไปด้วยความสับสนวุ่นวายนี้ บุคคลจะต้องได้รับการอบรมจิตพอสมควรจึงจะอยู่ได้อย่างสงบสุข พระผู้มีพระภาคทรงแนะวิธีอบรมจิตไว้อย่างไรบ้าง?
พุทธดำรัสตอบ
“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนา (อบรมจิต) เสมอด้วยแผ่นดินเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยแผ่นดินอยู่ ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้
ดูก่อนราหุล เปรียบเหมือนคนทั้งหลายทิ้งของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง คูถบ้าง มูตรบ้าง น้ำลายบ้าง น้ำหนองบ้าง เลือดบ้าง ลงที่แผ่นดิน แผ่นดินจะอึดอัด หรือระอา หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่ฉันใด เธอจงเจริญภาวนาเสมอด้วยแผ่นดินนั้น ฉันนั้นแล”
“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยน้ำเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยน้ำอยู่ ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้... เปรียบเหมือนคนทั้งหลายล้างของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง ลงในน้ำ... น้ำจะอึดอัด หรือระอา หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่...”
“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยลมเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยลมอยู่ ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตของเธอได้... เปรียบเหมือนลม ย่อมพัดต้องของสะอาดบ้าง ไม่สะอาดบ้าง... ลมจะอึดอัด หรือระอา หรือเกลียดด้วยของนั้น ก็หาไม่...”
“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญภาวนาด้วยอากาศเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญภาวนาเสมอด้วยอากาศอยู่ ผัสสะอันเป็นที่ชอบใจและไม่ชอบใจที่เกิดขึ้นแล้ว จักไม่ครอบงำจิตได้... เปรียบเหมือนอากาศไม่ตั้งอยู่ในที่ไหนๆ...”
“... ดูก่อนราหุล เธอจงเจริญเมตตาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญเมตตาภาวนาอยู่ จักละพยาบาท (ความคิดจองล้าง) ได้ เธอจงเจริญกรุณาภาวนาเถิดเพราะเธอเมื่อเจริญกรุณาภาวนาอยู่ จักละวิหิงสา (ความคิดเบียดเบียน) ได้เธอจงเจริญมุทิตาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญมุทิตาภาวนาอยู่ จักละอรติ (ความอิจฉาตาร้อน) ได้ เธอจงเจริญอุเบกขาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญอุเบกขาภาวนาอยู่ จักละปฏิฆะ (ความขุ่นเคือง) ได้ เธอจงเจริญอสุภภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญอสุภภาวนาอยู่ จักละราคะ (ความกำหนัดยินดี) ได้เธอจงเจริญอนิจจสัญญาภาวนาเถิด เพราะเมื่อเธอเจริญอนิจจสัญญาภาวนาอยู่จักละอัสมิมานะ (ความถือตัวว่าเป็นเรา) ได้”
มหาราหุโลวาทสูตร ม. ม. (๑๔๐-๑๔๕)
ตบ. ๑๓ : ๑๓๘-๑๔๐ ตท.๑๓ : ๑๒๖-๑๒๘
ตอ. MLS. II : ๙๔-๙๖
ขอเชิญเป็นเจ้าภาพงานประจำปีเทศกาลตรุษจีน นมัสการหลวงพ่อดำ
พระพุทธรูปศักดิ์สิทธิ์ เขาพระเจดีย์ วัดช่องแสมสาร ตามกำลังศรัทธา
วันที่ 10-15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2567
หรือร่วมเป็นเจ้าภาพผ่านบัญชีธนาคารกรุงไทย สาขาสัตหีบ และสาขาพลูตาหลวง
โดยแจ้งสลิปให้ทางวัดทราบเพื่อจะได้อนุโมทนาต่อไป
{สามารถลดหย่อนภาษีได้ตามระบบ}
1. เจ้าภาพดอกไม้ ธูปเทียน ทอง
2. เจ้าภาพแสงสว่างในงาน
3. เจ้าภาพมหรสพสมโภชในงาน
4. เจ้าภาพถวายพระสงฆ์เจริญพระพุทธมนต์เปิดงาน
5. เจ้าภาพอาหารเครื่องครัว
การทำบุญในครั้งนี้ไม่กำหนดในการบริจาค ขอให้ท่านได้รับบุญตลอดงาน สาธุ
ร่วมทำบุญออนไลน์ได้ที่ ธ.กรุงไทย สาขาสัตหีบ 230 0 57941 3 เงินบริจาควัดช่องแสมสาร
ติดต่อสอบถาม พระมหาไสว สนฺตมโน ดร. ผู้ช่วยเจ้าอาวาส 092-662-8987
พระมหานิรันดร์ 094-412-6177 พระชัชวาล 065-225-5292 พระเจ้าหน้าที่รับมอบหมายจากเจ้าอาวาส
ปอย 064-169-1036 เจ้าหน้าที่บนวิหาร
รายนามเจ้าภาพถวายหลวงพ่อดำตลอดงาน ขอบารมีหลวงพ่อประทานพรให้โชคดี
ร่ำรวย เฮง เฮง สมปรารถนารับปีใหม่ทุกคน
ดารานักบู๊ชื่อดังระดับฮอลิวูด "จา พนม" บวงสรวงพระพรหมองค์ใหญ่วัดช่องแสมสาร จัดสร้างเหรียญพระพรหม
วันที่ 14 มิถุนายน 2566 "คุณจา พนม ยีรัมย์" หรือ "โทนี่ จา" ดารานักแสดงหนังบู๊ชื่อดังระดับฮอลลีวูดของไทย เดินทางมาพร้อมทีมงาน เข้าสักการะพระครูวิสารทสุตากร เจ้าคณะตำบลพลูตาหลวง/เจ้าอาวาสวัดช่องแสมสาร เพื่อขออนุญาตทำพิธีบวงสรวงท้าวสหัมบดีพรหมองค์ใหญ่ ในวัดช่องแสมสาร เพื่อจัดสร้างเหรียญพระพรหม โดยในวันนี้เป็นพิธีบวงสรวงวาระแรก และจะมีอีก 2 วาระที่วัดขนอน และจะเปิดจองเหรียญพระพรหมที่วัดขนอน จ.อยุธยา รวมถึงในต่างประเทศด้วย อาทิ จีน ฮ่องกง ใต้หวัน สิงคโปร ในวันที่ 5 ส.ค.66
คำว่า "พระพรหม" ในทางพระพุทธศาสนา หมายถึงท่านผู้มีความเพียรกล้า ทรงไว้ซึ่งปัญญาเกินสามัญชน ปรารถนาจะพ้นจากกิเลสานุสัย แล้วบังเกิดอยู่ที่พรหมภูมิ ไม่ข้องในกาม เรื่องราวของพระพรหมได้ผสมผสานเล่าขานสืบต่อกันมา ตั้งแต่สมัยสุโขทัยจนถึงปัจจุบัน การสร้างเทวรูปของท้าวมหาพรหมณ์ นิยมสร้างสี่หน้า สี่มือ หรือแปดหน้า แปดมือถือของต่างๆ กัน เช่น ช้อนตักไขเนยลงในไฟ หม้อน้ำสำหรับใส่น้ำจากแม่น้ำคงคา คัมภีร์พระเวท เทพศัสตรา คทาอาญาสิทธิ์ ศรและลูกธนู พรศอคล้องประคำ พรกายสีแดงหรือสีขาว ปัจจุบันนิยมสร้างมีกายเป็นสีทอง มีม้าหรือหงส์เป็นพาหนะ
ที่วัดช่องแสมสาร อ.สัตหีบ จ.ชลบุรี พระครูวิสารทสุตากร เจ้าคณะตำบลพลูตาหลวงและเจ้าอาวาส ได้ร่วมกับคณะผู้มิจิตศรัทธา สร้างท้าวสหบดีพรหม (มหาพรหม) ขนาดหน้าตักกว้าง 7.88 เมตร ซึ่งได้ทำพิธีอัญเชิญท้าวสหบดีพรหมประดิษฐานบนแท่นศิลา ณ วัดช่องแสมสาร เมื่อวันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2554 โดยทำพิธีอัญเชิญท้าวมหาพรหมลงประดิษฐาน ณ แท่นศิลา และสักการะด้วยพวงมาลัยความยาว 199 เมตร พร้อมด้วยพระสงฆ์ 108 รูป เจริญชัยมงคลคาถา โดยมี นางสุกุมล คุณปลื้ม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ในขณะนั้น และนายอิทธิพล คุณปลื้ม นายกเมืองพัทยา ในขณะนั้น เป็นประธานในพิธี
พระครูวิสารทสุตากร เจ้าคณะตำบลพลูตาหลวง/เจ้าอาวาสวัดช่องแสมสาร บอกว่า ในพระพุทธศาสนานั้น ยอมรับว่าพระพรหมเป็นเทพที่ปกป้องพระพุทธศาสนา เข้ามาเกี่ยวข้องกับพระบรมศาสดาหลายหนด้วยกัน เห็นง่ายๆ ก็คือ การอาราธนาให้แสดงธรรมเป็นเจ้าแรก ดังปรากฏในบทอาราธนาเทศน์ว่า “พรหมาจโลกาธิปติ สหัมปติ” อันเป็นการระลึกถึงการอาราธนาธรรม ของพระสหัมบดีพรหมนั่นเอง อีกทั้งหลักธรรมในพระพุทธศาสนา ข้อหนึ่งก็เป็นพรหมวิหารคือ ธรรมะที่พระพรหมถือปฏิบัติเป็นประจำ และผู้ที่จะได้ไปเป็นพรหมก็ต้องปฏิบัติเช่นนั้น คือ 1.เมตตา คือ มีความสงสารและเห็นใจผู้ที่ด้อยกว่าและร้องขอความช่วยเหลือ 2.กรุณา คือ ให้การสงเคราะห์ตามควรแก่กรณีที่จะทำได้ 3.มุทิตา คือ ให้ด้วยความบริสุทธิ์ไม่หวังในสิ่งตอบแทนภายหลังและให้โดยทั่วกัน และ 4.อุเบกขา คือ ความเที่ยงธรรมไม่ลำเอียงเห็นแก่หน้าหรือการให้ความเสมอภาคนั่นเอง